รถยนต์ – ทำไม ญี่ปุ่น ยังไม่ใช่เบอร์หนึ่งในตลาดรถยนต์ไฟฟ้า | TODAY Bizview

มาดูบทความ “รถยนต์ – ทำไม ญี่ปุ่น ยังไม่ใช่เบอร์หนึ่งในตลาดรถยนต์ไฟฟ้า | TODAY Bizview” ที่รวบรวมโดย Đại Lý Suzuki จากแหล่งต่างๆ บนอินเทอร์เน็ต ผู้แต่ง workpointTODAY มียอดวิวสูงบนแพลตฟอร์มโซเชียลเน็ตเวิร์ก
Nội dung
- 1 การอ้างอิงวิดีโอ รถยนต์ – ทำไม ญี่ปุ่น ยังไม่ใช่เบอร์หนึ่งในตลาดรถยนต์ไฟฟ้า | TODAY Bizview
- 2 สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ รถยนต์ – ทำไม ญี่ปุ่น ยังไม่ใช่เบอร์หนึ่งในตลาดรถยนต์ไฟฟ้า | TODAY Bizview
- 3 ค้นหาบทความที่เกี่ยวข้องเพิ่มเติมเกี่ยวกับคีย์เวิร์ด รถยนต์
- 4 รูปภาพของ รถยนต์
- 5 แหล่งที่มาของวิดีโอ ทำไม ญี่ปุ่น ยังไม่ใช่เบอร์หนึ่งในตลาดรถยนต์ไฟฟ้า | TODAY Bizview
- 6 เพิ่มเติมเกี่ยวกับ ทำไม ญี่ปุ่น ยังไม่ใช่เบอร์หนึ่งในตลาดรถยนต์ไฟฟ้า | TODAY Bizview
การอ้างอิงวิดีโอ รถยนต์ – ทำไม ญี่ปุ่น ยังไม่ใช่เบอร์หนึ่งในตลาดรถยนต์ไฟฟ้า | TODAY Bizview
สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ รถยนต์ – ทำไม ญี่ปุ่น ยังไม่ใช่เบอร์หนึ่งในตลาดรถยนต์ไฟฟ้า | TODAY Bizview
ญี่ปุ่นครองตลาดรถยนต์มาช้านาน แต่สำหรับรถยนต์ไฟฟ้าอาจยังไม่ถึง ทำไมในอดีตประเทศญี่ปุ่นถึงแม้จะเคลื่อนไหวช้าและในอนาคตจะเป็นผู้นำตลาดรถยนต์ไฟฟ้าหรือไม่? วัฒนธรรมญี่ปุ่น #บริษัทรถยนต์ #workpointTODAY | ทำพรุ่งนี้ ข่าววันนี้ ข่าววันนี้ ข่าวด่วน ข่าวธุรกิจ #TODAYBizview #ความรู้สำหรับวันนี้ ติดตาม TODAY Bizview ไม่พลาดข่าวธุรกิจ การตลาด การเงิน เทคโนโลยี ผ่านการติดตาม Bizview TOMORROW โปรแกรมความรู้ทางธุรกิจ สำหรับวันพรุ่งนี้ทางอีเมล์ติดต่อโฆษณา advertorial@workpointnews.com
ค้นหาบทความที่เกี่ยวข้องเพิ่มเติมเกี่ยวกับคีย์เวิร์ด รถยนต์
ด้านล่างนี้คือผลการค้นหาสำหรับคำหลัก “รถยนต์” จากหน้า Wikipedia ThaiLand ที่มีการค้นหามากที่สุดใน Google
ดูโพสต์ที่เจาะจงมากขึ้น
รูปภาพของ รถยนต์

แหล่งที่มาของวิดีโอ ทำไม ญี่ปุ่น ยังไม่ใช่เบอร์หนึ่งในตลาดรถยนต์ไฟฟ้า | TODAY Bizview
https://www.youtube.com/watch?v=GIQPQxbrqJA
เพิ่มเติมเกี่ยวกับ ทำไม ญี่ปุ่น ยังไม่ใช่เบอร์หนึ่งในตลาดรถยนต์ไฟฟ้า | TODAY Bizview
- ผู้แต่ง: workpointTODAY
- จำนวนการดู: 13540
- อัตรา: 5.00
- ชอบ: 285
- ไม่ชอบ:
- ค้นหาคำสำคัญ: workpoint news,ข่าวเวิร์คพอยท์,workpoint today,ข่าว,news,ข่าวด่วน,เวิร์คพอยท์,ข่าววันนี้,ความรู้,สาระ,ญี่ปุ่น,อุตสาหกรรมรถยนต์,รถยนต์ไฟฟ้า,จีน,รัฐบาลจีน,วัฒนธรรมญี่ปุ่น,บริษัทรถยนต์
- คีย์เวิร์ดอื่นๆ: รถยนต์
- คำอธิบายวิดีโอ: ญี่ปุ่นครองตลาดรถยนต์มาช้านาน แต่สำหรับรถยนต์ไฟฟ้าอาจยังไม่ถึง ทำไมในอดีตประเทศญี่ปุ่นถึงแม้จะเคลื่อนไหวช้าและในอนาคตจะเป็นผู้นำตลาดรถยนต์ไฟฟ้าหรือไม่? วัฒนธรรมญี่ปุ่น #บริษัทรถยนต์ #workpointTODAY | ทำพรุ่งนี้ ข่าววันนี้ ข่าววันนี้ ข่าวด่วน ข่าวธุรกิจ #TODAYBizview #ความรู้สำหรับวันนี้ ติดตาม TODAY Bizview ไม่พลาดข่าวธุรกิจ การตลาด การเงิน เทคโนโลยี ผ่านการติดตาม Bizview TOMORROW โปรแกรมความรู้ทางธุรกิจ สำหรับวันพรุ่งนี้ทางอีเมล์ติดต่อโฆษณา advertorial@workpointnews.com
ญี่ปุ่นครองตลาดรถยนต์มาช้านาน แต่สำหรับรถยนต์ไฟฟ้าอาจยังไม่ถึง ทำไมในอดีตประเทศญี่ปุ่นถึงแม้จะเคลื่อนไหวช้าและในอนาคตจะเป็นผู้นำตลาดรถยนต์ไฟฟ้าหรือไม่? วัฒนธรรมญี่ปุ่น #บริษัทรถยนต์ #workpointTODAY | ทำพรุ่งนี้ ข่าววันนี้ ข่าววันนี้ ข่าวด่วน ข่าวธุรกิจ #TODAYBizview #ความรู้สำหรับวันนี้ ติดตาม TODAY Bizview ไม่พลาดข่าวธุรกิจ การตลาด การเงิน เทคโนโลยี ผ่านการติดตาม Bizview TOMORROW โปรแกรมความรู้ทางธุรกิจ สำหรับวันพรุ่งนี้ทางอีเมล์ติดต่อโฆษณา advertorial@workpointnews.com
ญี่ปุ่นครองตลาดรถยนต์มาช้านาน แต่สำหรับรถยนต์ไฟฟ้าอาจยังไม่ถึง ทำไมในอดีตประเทศญี่ปุ่นถึงแม้จะเคลื่อนไหวช้าและในอนาคตจะเป็นผู้นำตลาดรถยนต์ไฟฟ้าหรือไม่? วัฒนธรรมญี่ปุ่น #บริษัทรถยนต์ #workpointTODAY | ทำพรุ่งนี้ ข่าววันนี้ ข่าววันนี้ ข่าวด่วน ข่าวธุรกิจ #TODAYBizview #ความรู้สำหรับวันนี้ ติดตาม TODAY Bizview ไม่พลาดข่าวธุรกิจ การตลาด การเงิน เทคโนโลยี ผ่านการติดตาม Bizview TOMORROW โปรแกรมความรู้ทางธุรกิจ สำหรับวันพรุ่งนี้ทางอีเมล์ติดต่อโฆษณา advertorial@workpointnews.com
ญี่ปุ่นครองตลาดรถยนต์มาช้านาน แต่สำหรับรถยนต์ไฟฟ้าอาจยังไม่ถึง ทำไมในอดีตประเทศญี่ปุ่นถึงแม้จะเคลื่อนไหวช้าและในอนาคตจะเป็นผู้นำตลาดรถยนต์ไฟฟ้าหรือไม่? วัฒนธรรมญี่ปุ่น #บริษัทรถยนต์ #workpointTODAY | ทำพรุ่งนี้ ข่าววันนี้ ข่าววันนี้ ข่าวด่วน ข่าวธุรกิจ #TODAYBizview #ความรู้สำหรับวันนี้ ติดตาม TODAY Bizview ไม่พลาดข่าวธุรกิจ การตลาด การเงิน เทคโนโลยี ผ่านการติดตาม Bizview TOMORROW โปรแกรมความรู้ทางธุรกิจ สำหรับวันพรุ่งนี้ทางอีเมล์ติดต่อโฆษณา advertorial@workpointnews.com
แหล่งรวม: Hyundai Bình Dương
#ทำไม #ญปน #ยงไมใชเบอรหนงในตลาดรถยนตไฟฟา #TODAY #Bizview
ญี่ปุ่นพลาดไปหลายอย่างแล้ว ไอทีก็เสียให้กับเกาหลีใต้และไต้หวันไปแล้ว ทีวี ตู้เย็นก็เสียให้กับเกาหลีและจีนไปแล้ว รถยนต์ก็เชื่องช้าไม่ยอมปรับตัว
มีอย่างเดียวที่ญี่ปุ่นยังล้ำหน้าเพื่อนคือ ตลาดเอวี
ง่ายๆเลยที่นึกไม่ถึง คือแหล่งแร่และการผลิตแบตเตอรี่ ญี่ปุ่นไม่มีและทำไม่ได้ จึงปล่อยให้จีนเดินหน้า รถไฟฟ้าครับ ฟังเขาเล่ามาครับ
นึกถึงยุคกล้อง digital เข้ามาแทนที่กล้องฟิล์มเลย
ตลาดเดิมเขาคือเบอร์ 1 ของโลก ไม่จำเป็นต้องรีบขยับมากก็ได้ เพราะยังทำกำไรได้ดีอยู่ ยุคเปลี่ยนผ่านมันไม่ได้เกิดขึ้นรวดเร็วขนาดนั้น ไม่ใช้ทุกคนจะมีเงินหาซื้อรถใหม่ได้ทันที
อีกอย่างจีนที่เริ่มได้เร็วเพราะเขาพยายามส่งเสริมพึ่งพาตนเอง ลองผิดลองถูกเทคโนโลยีใหม่ๆลดการพึ่งพารถต่างชาติ โดยมีการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าใช้งานกันช้านานก่อนที่กระแสรถยนต์ไฟฟ้าจะมา
ญี่ปุ่นถือว่าเป็นเจ้าแห่งเครื่องยนต์ต่อต้านเรื่องรถยนต์ไฟฟ้าเพราะคิดว่ารถยนต์สันดาปภายในที่ตนเองทำมีความได้เปรียบต่อคู่แข่งอื่นสูง
แถมผู้บริหารรถยนต์ญี่ปุ่นในไทยยังมาหลอกคนไทยว่ารถยนตไฟฟ้า(BEV)คนไทยไม่พร้อมในเรื่องของทางด้านเทคนิคข้อและการซ่อมบำรุงและผู้ใช้เองก็ยังไม่พร้อม บริษัทญี่ปุ่นทำให้ปรับตัวก็ไม่แคล้วเป็น nokia, motorola
ก็ยี่ปุ่นมันออกแบบรถไม่สวยมาแต่ไหนแต่ไรแล้ว ที่คนไทยใช้เยอะเพราะจำใจใช้มันราคาไม่แพงเมื่อเทียบกับรถยุโรป แต่ต่อไปแพ้รถจีนแน่นอนเพราะออกแบบสวยทรงสปอตโดนใจพี่ไทยเค้าแหละ😍😍แถมราคาก็ถูกพอๆกับรถยี่ปุ่นแล้ว
ที่เคยทำบริษัทญี่ปุ่นนะครับ วัฒนธรรมองค์กรขยับช้า ไม่กล้าเปลี่ยนแปลง จะทำอะไรสักอย่างประชุมวนๆไปเสียเวลาชีวิต กฎระเบียบเหมือนอยู่โรงเรียน ไม่ยืดหยุ่น ระดับขั้นตอนเยอะ ระบบอาวุโสแรงมาก คิดอยู่นั่นแหละ ไม่ลงมือทำ หลักๆคือห่วงซัพพลายเออร์ เพราะห่วงโซ่อุปทานมันใหญ่มากกระทบคนจำนวนมาก ตรงนี้ผมเข้าใจญี่ปุ่นนะ แต่มันช้ากว่าจีนเยอะ อีกอย่างแบตก็สู้จีนไม่ได้ทั้งต้นทุนและคุณภาพ ในขณะที่จีนไปไกลมากเรื่องยานยนต์ไฟฟ้า จีนผมมองว่าเค้าเป็นประเภทมองไกล กล้าได้กล้าเสีย กล้าลงทุน คือตลกมากทุกวันนี้ที่คนไทยดูถูกจีน ขนาดอเมริกายังมองเป็นศัตรูเลย ไทยเองก็ต้องระวังนะครับ ไทยเป็นฐาการผลิตรถยนต์สันดาปให้ญี่ปุ่นปีละเป็นล้านคัน คือถ้าไม่หาพันธมิตรใหม่อย่างจีน เกาหลี ยุโรป ดึงเค้ามาลงทุน ประเทศเราแย่แน่ รอญี่ปุ่นบอกเลยครับหวังลมๆแล้งๆ
ชอบโตโยต้า
เมื่อสัก 7-8 ปีก่อนเคยได้ยินคนในวงการบอกว่าญี่ปุ่นเขาสนใจรถไฟฟ้าแหละ
แต่ต้องรอให้ตลาดกว้างเกิด economy of scale ก่อน ก็ไม่รู้จริงมั้ย? หรือดื้อไม่ยอมเปลี่ยนก็ไม่รุ😅
ชวนกันคิด แล้วเราจะเอาไฟฟ้าที่ไหนมา supply ให้พอ แค่นี้ทั้งโลกก็ยังมีวิกฤตไฟฟ้าอยู่เลย
ถามกันตรงๆ แล้วทำไมต้อง“ญี่ปุ่น" เทคโนโลยีรถไฟฟ้า จีนเขาถนัด ราคาถูก ก็ซื้อจีนสิ ส่วนญี่ปุ่นเขาถนัดเครื่องยนตร์ ใครยังชอบก็ซื้อญี่ปุ่น จะเอามาเปรียบเทียบกันทำไม?
เทคโนโลยีก็คนละแบบ มันไม่ใช่รถไฟฟ้ามา“ทดแทน"รถน้ำมัน
แต่รถไฟฟ้ามา“แทนที่"รถน้ำมัน.
ยุ่น คิดว่าผูกขาดตลาดรถน้ำมันชนชั้นกลาง ในขณะที่รถไฟฟ้าราคาสูง แต่เจอจีนผลิตออกมาถูกมาก จบเกม เบตเตอรี่รุ่นใหม่ใช้ทน10-40ปี วิ่งได้ไหล 100-500กม. ชาร์คได้ไว ส่งรถน้ำมันกลับบ้านเก่าในอีกไม่เกิน15ปี เอาให้แบบไม่ได้เกิดไม่ได้ผุด
ฟังแล้วก็เข้าใจเลย..ทำไมคนไทยยังโง่อยู่ คิดอะไรตื้นๆ
รถญี่ปุ่นอาจค่อยๆพัฒนาแต่ทำออกมามีคุณภาพ ทนทาน แบตเตอรี่วิ่งได้ไกล ชาร์จไว แต่จีนผลิตออกมาไวแต่คุณภาพต่ำ
กระแสรถไฟฟ้ามาเร็วเกินกว่าที่ค่ายญี่ปุ่นวางแผนเอาไว้ อีกทั้งยังลงทุนในอุตสาหกรรมรถสันดาปไว้ทั่วโลกแล้ว การจะเปลี่ยนทันทีต้องใช้เงินลงทุนอีกเยอะ ไม่เหมือนจีนที่สามารถเลือกลงทุนใหม่ในรถไฟฟ้าได้เลยทันที แต่ทั้งนี้ปัจจุบันฝุ่นยังตลบอยู่ ค่ายเก่าค่ายใหม่ค่ายเล็กค่ายใหญ่ลงมาแบ่งเค้กรถไฟฟ้ากันสนุกสนาน แต่ในมี่สุดแล้วจะเหลือของจริงเท่านั้นที่จะอยู่รอดในอุตสาหกรรมรถไฟฟ้าได้จริงๆ
รถไฟฟ้ามันไม่ได้เหมาะกับทุกภูมิภาคของโลก พื้นที่ลาดชันเยอะๆกับพื้นที่มึน้ำท่วมบ่อยๆรถไฟฟ้าอาจพังก่อนจะได้ใช้คุ้ม ญี่ปุ่นทั้งมีไต้ฝุ่นบ่อยพื้นที่ก็ลาดชันเยอะเรียกได้ว่าพื้นที่ญี่ปุ่นมันไม่เหมาะกับรถแบบนี้ ออสเตเรียหรือตะวันออกกลางที่ฝนตกน้อยพื้นที่ลาดชันน้อยจะเหมาะกว่า ซึ่งอุตสาหกรรมรถยนต์ในญี่ปุ่นจะให้ซื้อรถไฟฟ้าแล้วต้องต่อแพกันน้ำท่วมสึนามิหรือวิ่งพื้นที่ลาดชันแล้วไฟหมดก่อนถึงที่หมาย บ.รถยนต์ในญี่ปุ่นไม่น่าจะอยากผลิตมันทำได้แค่ผลิตเพื่อส่งออกเท่านั้นแต่ใช้เองไม่ได้
ญี่ปุ่นคิดเหมือนบริษัทโนเกียแหละ สุดท้าย….เจ๊ง
ไม่ใช่แค่เทคโนโลยีแบตเตอรี่ที่ญี่ปุ่นยังตามหลังเจ้าอื่นแต่ ระบบAIต่างๆ ซึ่งเป็นหัวใจของรถไฟฟ้าก็โดน จีน เกาหลีแซงไปหมดแล้ว
ญี่ปุ่นกำลังตกขบวนการปฏิวิติอุตสาหกรรมครั้งที่ 4 อยู่
เตรียมตัวขิต
ข่าวสายจีนอวยจีนยังล้าหลังญี่ปุ่นเยอะคนละเรื่องญี่ปุ่นเขาคิดไกลเยอะแล้วเขาเดินไปไกลคนละเรื่องอย่ามาโม้
ใครยังจำนิทาน กระต่ายกับเต่าได้ไหมครับ ญี่ปุ่นมั่นใจว่าตัวเองเก่งที่สุดยังไงก็ชนะ เห็นจีนเป็นเต่า ระวังเต่าจะเข้าเส้นชัยทิ้งกระต่ายไว้ข้างหลัง
ญี่ปุ่น ไม่อยากให้โลกเปลี่ยนไปใช้รถไฟฟ้า เพราะจะมีผลกระทบ กับอุตสาหกรรม การจ้างงานของคนญี่ปุ่น
จีนมี blade battery ดีสุดในโลกตอนนี้
ญี่ปุ่นกินมานานแล้วยังจุกอยู่ให้จีนกินบ้าง55
ญี่ปุ่นเขาจะมองไกล ไม่ใช่สุกเอาเผากินแบบจีน รถไฟฟ้าก็ทำลายสิ่งแวดล้อมทั้งทางตรงและทางอ้อม ก่อนที่จะเป็นไฟฟ้า ใช้ทรัพยากรถ่านหิน น้ำมัน สร้างเขื่อน(จีน สร้างเขื่อนกั้นแม่น้ำโขง ไม่รู้กี่เขื่อน ทำลายทุกสิ่งอย่าง ประเทศปลายน้ำได้รับผลกระทบก็ไม่ใส่ใจ ) รถไฮโดรเจน น้ำเป็นทรัพยากรที่มีมากมาย ไม่ได้หมดง่ายๆ ส่วนคุณคนที่ใช้รถEV ก็คงเหมือนกันใช้ VCD เมื่อก่อน และมีDVDมาแทนในเวลาไม่นาน
ข้อดีของญี่ปุ่นที่สู้ได้คือช่วงล่าง และความน่าเชื่อถือ
ยาก โดนทิ้งไว้ข้างหลังได้เลย เพราะ เทคโนโลยีแบตเตอรี่ และมอเตอร์ซิงโครโนส จีนได้เปรียบกว่าเยอะต้นทุนก็ได้เปรียบที่สุด
มันไม่ใช่แค่มิติที่ว่ารถสัยดาป จะยังคงขายได้หรือไม่ แต่ในเมื่อคลื่นความเปลี่ยนแปลงมันเกืดขึ้นแล้ว ไทยเราวางตัวเองอยู่ตรงไหน แล้วรัฐในฐานะผู้มีอำนาจกำหนดทิศทาง จะเปิดกว้างและส่งเสริมให้ตลาดในประเทศได้ใช้เทคโนโลยีรถ BEV มากแค่ไหน
หรือจะซึมๆค่อยๆเปลี่ยนตามนโยบายบ.ยานยนตร์ญี่ปุ่น ยื้อ supply chainเครื่อง สันดาปไว้ เรื่อง EV ไม่ต้องรีบเอาไว้ให้เศรษฐี 5% 8% ใช้กัน คนธรรมดาก็เติมน้ำมันปันฝุ่นควันกันไป
เพราะแกนหลักธุรกิจประเทศเป็นสันดาป ไม่จำเป็นต้องขยับ ถ้าไม่มีใครมา disrupt
จีนส่งเสริมรถไฟฟ้ามาตั้งแต่ปี2009 แต่ญี่ปุ่นตอนนั้นส่งเสริมรถไฮโดรเจน พอเวลาพาไปรถไฟฟ้านิยมมากกว่า แต่ญี่ปุ่นลงทุนไฮโดรเจนไปแล้ว จะกลับลำมามันเลยช้ากว่าค่ายจีนที่ลงทุนไปเป็น10ปีแล้ว
ล้าหลัง กั๊กออฟชั่นจะเอาไรไปเป็นผู้นำ
ญี่ปุ่นต้องรีบขยับให้ไวเลยเพราะตอนนี้กระแสพลังงานสะอาดกำลังจะมาแบบจริงจังขึ้นจากสภาพโลกตอนนี้เชื่อว่าต้องหาวิธีที่จะใช้พลังงานสะอาดให้มากที่สุด ส่วนไทยเราอะถ้าทำทำได้นะเรามีคนเก่งเยอะแต่ไม่มีพื้นที่จะอยู่เพราะระบบ
จีนใช้ระบบบริหารเป็นระบอบคอมมิวนิสต์ อำนาจในการบริหารทั้งหมดอยู่ที่ส่วนกลางนั่นก็คือพรรค
บริษัทต่างๆ ในประเทศจีนไม่ว่าจะเล็กหรือใหญ่ ต่างก็เป็นส่วนหนึ่งของภาครัฐ
ฉะนั้น นโยบายต่างๆ ที่ออกมา บริษัทต่างๆ ในประเทศจีน จึงต้องทำงานให้สอดคล้อง
กับยุทธศาสตร์ชาติ ที่พรรคคอมมิวนิสต์เป็นผู้กำหนด.
ญี่ปุ่นเค้าสุดยอดอยู่แล้วค่ะ
แล้วในบ้านเราแนวโน้มจะเป็นอย่างไรครับ เพราะส่วนมากรถแบรนด์ญี่ปุ่นเป็นเจ้าตลาด